Course Content
INTRODUCTION
หนังสือเล่มนี้พร้อมกับไฟล์เสียงประกอบจะช่วยให้คุณเริ่มต้นเล่นดนตรีโฟล์กได้อย่างมั่นใจ คุณจะได้เรียนรู้เทคนิคการเล่นแบ็กอัพหลายรูปแบบ รวมถึงกลยุทธ์การโซโล่ที่จะช่วยให้คุณสามารถเล่นเพลงหลากหลายประเภทด้วยจังหวะที่แตกต่างกันไป ระหว่างทาง คุณจะได้เรียนรู้เพลงมากมายที่ได้รับความนิยมใน “ยุคโฟล์ก” ช่วงปลายทศวรรษ 1950 และกลางทศวรรษ 1960 ซึ่งเป็นช่วงที่ดนตรีโฟล์กได้ผสมผสานเข้ากับดนตรีป๊อปอย่างลงตัว หมายเหตุสำหรับผู้เล่น: ไฟล์เสียงประกอบมีแทร็กสำหรับเล่นตามและตัวอย่างดนตรีที่นำเสนอรูปแบบและเทคนิคในหนังสือ ทุกส่วนของกีตาร์ถูกปรับเสียงไปที่ด้านขวาของมิกซ์เสียงสเตอริโอ เพื่อให้คุณสามารถแยกเสียงกีตาร์ออกมาเพื่อศึกษารายละเอียด หรือปรับให้เสียงกีตาร์เงียบลงเพื่อเล่นตามกับวงได้อย่างเต็มที่
0/3
ACCOMPANIMENT
การเล่นประกอบ (Accompaniment) การเล่นประกอบหมายถึงการเล่นดนตรีเพื่อสนับสนุนหรือสร้างพื้นฐานให้กับเพลงหรือการแสดง โดยปกติจะใช้เพื่อรองรับเสียงร้องหรือเครื่องดนตรีหลัก ซึ่งในกรณีของกีตาร์ การเล่นประกอบอาจรวมถึงการตีคอร์ด (strumming), การดีดสายเป็นจังหวะ (arpeggio), หรือการเล่นรูปแบบจังหวะต่างๆ เพื่อเสริมบรรยากาศของเพลง การเรียนรู้การเล่นประกอบพื้นฐาน (Accompaniment) เป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นเรียนดนตรีโฟล์ก (หรือดนตรีในสไตล์อื่นๆ เกือบทุกชนิด) แม้ว่าคุณจะตั้งเป้าหมายที่จะเป็นนักโซโล่ขั้นเทพก็ตาม ในระหว่างการฝึกเล่นประกอบ คุณจะได้เรียนรู้คอร์ด, การเล่นเบสแบบรันโน้ต (bass runs), จังหวะการตีคอร์ด (rhythmic strums), และรูปแบบการดีดสาย (picking patterns) ที่จำเป็นสำหรับการเล่นโซโล่และการเล่นประกอบเสียงร้อง นอกจากนี้ หากคุณไม่ได้ตั้งใจที่จะเล่นเฉพาะดนตรีบรรเลง (instrumentals) เพียงอย่างเดียว คุณอาจจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นประกอบมากกว่าการเล่นโซโล่เสียอีก
0/2
Protected: นภ_Guitar_Cadenza
About Lesson

กีตาร์แบบไหนที่เหมาะสำหรับดนตรีโฟล์ก

คุณสามารถใช้กีตาร์แบบใดก็ได้ตามที่คุณชอบและยังคงเป็นนักดนตรีโฟล์กได้ ไม่มีข้อบังคับที่ตายตัว แต่มีแนวทางปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับทั่วไป โดยทั่วไปแล้ว กีตาร์โปร่งจะเกี่ยวข้องกับดนตรีโฟล์กมากกว่ากีตาร์ไฟฟ้า แม้ว่าหลายคนจะใช้กีตาร์โปร่ง-ไฟฟ้า (acoustic/electric guitar) ซึ่งเป็นกีตาร์โปร่งที่มีระบบปิ๊กอัพไฟฟ้าในตัว คุณสามารถเสียบกีตาร์แบบนี้เข้ากับแอมพลิไฟเออร์หรือระบบเสียง หรือเล่นแบบไม่เสียบสาย (unplugged) ก็ได้

สำหรับนักดนตรีบลูแกรสและดนตรีโฟล์กแบบดั้งเดิม รวมถึงนักดนตรีบลูส์ นิยมใช้กีตาร์สายเหล็ก (steel-string guitars) มากกว่ากีตาร์สายไนลอน (nylon-string guitars) (นักดนตรีบลูส์หลายคนชอบใช้กีตาร์เรโซเนเตอร์ที่มีตัวกีตาร์ทำจากโลหะ เช่น กีตาร์ยี่ห้อ National) นอกจากนี้ หลายคนยังชื่นชอบกีตาร์ 12 สาย ซึ่งมีสาย 6 คู่ (หรือที่เรียกว่า courses) โดยวิธีการเล่นจะเหมือนกับกีตาร์ 6 สาย แต่เสียงจะมีความลึกและอุดมสมบูรณ์มากขึ้น